คุณรู้สึกไหมว่าคุณเหมือนจะลองทุกวิถีทางแล้วที่จะจัดการกับปัญหาสิว แต่มันก็ยังมีร่องรอยหลงเหลืออยู่ แต่อย่าสิ้นหวังไปเลยค่ะ ถ้าหากคุณต้องการมีผิวที่ใสขึ้น คุณอาจจะต้องลองเปลี่ยนวิธีดู
เคล็ดลับต่อไปนี้จากแพทย์ผิวหนังจะช่วยให้คุณเอง
- ให้เวลากับการรักษาสิวอย่างน้อย 4 อาทิตย์เพื่อให้เห็นผล การใช้ผลิตภัณฑ์รักษาสิวใหม่ทุกๆ2-3วันดูเหมือนจะเป็นประโยชน์ แต่อันที่จริงแล้วมันสามารถทำให้อะไรๆแย่ลง เนื่องจากการรักษาสิวต้องใช้เวลาเพื่อที่จะเห็นผล การใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆที่แตกต่างกันทุก2-3วันสามารถทำให้เกิดอาคารระคายเคืองต่อผิวได้ และทำให้เกิดสิวใหม่ขึ้นอีกด้วย
ถ้าคุณเจอการรักษาสิวที่คิดว่าเหมาะกับตัวเองแล้วนั้น คุณควรใช้เวลาอย่างน้อยๆ 4-6 สัปดาห์ในการสังเกตอาการว่าดีขึ้นจริงๆไหม และบางครั้งสามารถใช้เวลาถึง 2-3 เดือน หรืออาจจะนานกว่านั้นที่จะเห็นผลอย่างชัดเจน
ถ้าคุณเห็นว่าอาการดีขึ้นก็ใช้การรักษาแบบนั้นต่อไปเรื่อยๆ แม้ว่าคุณจะเห็นความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนแล้วนั้น คุณก็อาจจะยังต้องรักษาด้วยวิธีนี้ต่อไปเรื่อยๆ เพราะมันจะช่วยให้ไม่เกิดสิวใหม่ขึ้นมาอีก
ถ้าคุณมีสิวที่อยู่ในระดับรุนแรง คุณควรจะไปพบแพทย์ผิวหนังเพื่อดูอาการและรักษา เพราะผลิตภัณฑ์ที่ร้านทั่วไปจะไม่ได้ช่วยกำจัดสิวที่อยู่ในขั้นรุนแรง
>> มีผลิตภัณฑ์อะไรรักษาสิว ได้บ้าง
- จัดการกับสิวที่มาจากต้นเหตุอื่นๆ ถ้าหากคุณไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นภายใน 4-6 สัปดาห์ คุณควรจะเพิ่มผลิตภัณฑ์ในการรักษาสิวครั้งนี้
แนวทางนี้สามารถช่วยจัดการปัญหาสิวจากต้นเหตุของสิวหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นแบคทีเรีย รูขุมขนอุดทัน น้ำมัน และการอักเสบ ปัจจัยเหล่านี้สามารถทำให้เกิดสิวได้ทั้งหมด
และแน่นอนว่าวิธีการรักษาขั้นต่อไปควรจะจัดการกับสิวที่มาจากสาเหตุที่ต่างกัน ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณกำลังใช้ผลิตภัณฑ์รักษาสิวที่มีส่วนผสมของ Benzoyl peroxide ผลิตภัณฑ์ในการรักษาสิวขั้นที่ 2 ควรมีส่วนผสมของสารที่มาช่วยในการต่อสู้กับสิวได้ เรามีตัวอย่างผลิตภัณฑ์ต่างๆที่สามารถช่วยคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- Benzoyl peroxide ช่วยลด acnes bacteria
- Retinoids อย่างเช่น เจล Adapalene gel ช่วยในการขจัดสิ่งอุดตันในรูขุมขน และลดความมันบนใบหน้า
- Salicylic Acid บรรเทาอาการอักเสบ และช่วยขจัดสิ่งอุดตันในรูขุม
คุณสามารถหาซื้อผลิภัณฑ์รักษาสิวที่มีส่วนประกอบของส่วนผสมเหล่านี้ทางออนไลน์ หรือที่ร้านค้าทั่วไปก็ได้ได้ โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องมีใบสั่งยา
>> คลีนิครักษาสิว แบบไหนไม่ควรเข้า
ลองผลิตภัณฑ์ 1-2 ชนิด แล้วให้เวลากับมันในการรักษา เพราะการลองหลายผลิตภัณฑ์มาเกินไปอาจทำให้ผิวเครียด และทำให้สิวมีอาการที่แย่ลงไปอีก
- ทำตามคำแนะนำที่กำหนด คุณสามารถเห็นได้ชัดเจนในขณะที่ใช้ผลิตภัณฑ์รักษาสิวเลยว่าต้องใช้ในปริมาณเท่าไหร่ หรือใช่บ่อยแค่ไหน เพราะมันสามารถทำให้เห็นถึงความแตกต่างได้อย่างชัดเจน
ถ้าหากแพทย์ผิวหนังได้กำหนดแผนการรักษาไว้ให้ คุณก็ควรที่จะทำตามคำแนะนำของแพทย์ และใช้ทุกอย่างที่แพทย์ในกำหนดรวมไว้ให้ในแผนการรักษานั้นๆ
การใช้ผลิตภัณฑ์รักษาสิวแค่บางอย่างจากทั้งหมดที่แพทย์ผิวหนังกำหนดมาสามารถทำให้คุณยังมีสิวอยู่นั่นเอง
- ล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง และล้างทุกครั้งเวลาเหงื่อออก จุดที่เกิดสิวง่ายมักจะเป็นจุดที่เซนสิทีฟ การล้างหน้ามากกว่าวันละ 2 ครั้งสามารถทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวได้ และจะทำให้สิวแย่ลง
แพทย์ผิวหนังให้การแนะนำว่าคุณควรล้างหน้าตามเวลาดังกล่าวเพื่อผลลัพธ์ที่ดีกว่า
- หลังตื่นนอนตอนเช้า
- ก่อนเข้านอน
- เมื่อมีเหงื่อ
- หยุดการสครับผิว และจุดที่เป็นสุด คุณมักจะสครับหน้าเมื่อคุณรู้สึกว่าหน้ามันหรือสกปรก แต่ห้ามสครับในจุดที่เกิดสิวง่าย เพราะมันจะทำให้สิวมีอาการแย่ลงเช่นเคย
- ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเครื่องสำอางที่ไม่ก่อให้เกิดสิว คุณอาจจะเคยเห็ฯว่าผลิตภัณฑ์บางอย่างเขียนไว้บนฉลากว่ามีส่วนผสมของสิ่งเหล่านี้
- ไม่อุดตันรูขุมขน (Won’t clog pores)
- ไม่มีส่วนผสมที่ทำให้เกิดรูขุมขนอุดตันได้ (Non-comedogenic)
- ไม่มีส่วนผสมที่ทำให้เกิดสิว (Non-comedogenic)
- ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน (Oil free)
แต่บางครั้งคุณอาจจะต้องเปลี่ยนผลิตภัณฑ่กอนที่คุณจะเจอผลิตภัณฑ์ที่ไม่ทำให้เกิดสิว เนื่องจากผลิตภัณฑ์เหล่านี้บางอย่างสามารถทำให้เกิดสิวได้ด้วยเช่นกัน
- หลีกเลี่ยงการสัมผัส การแกะ และการบีบสิว การบีบสิวดูเหมือนจะเป็นวิธีที่สามารถกำจัดสิวได้ไวที่สุด แต่จริงๆแล้วการบีบสิวสามารถทำให้หลายๆอย่างแย่ลงได้ในทุกๆครั้งที่คุณสัมผัส แกะ หรือบีบสิว
- ทายาแต้มสิวบนจุดที่เกิดสิวได้ง่าย ไม่ใช่แค่จุดที่เป็นสิวอยู่เท่านั้น ทายาแต้มสิวบางๆบนจุดที่กำลังเกิดสิวจะช่วยรักษาสิวที่มีอยู่ และจะช่วยป้องกันการเกิดใหม่ของสิว
- ซักทำความสะอาดหมอน หมวก และสิ่งต่างๆที่สัมผัสกับผิวที่เกิดสิวได้ เซลล์ผิวที่ตายแล้ว แบคทีเรีย และสิ่งสกปรกจะก่อตัวกันบนพื้นผิวของสิ่งเหล่านี้ ซึ่งมันมาสามารถไปอุดตันรูขุมขนของคุณได้ การทำความสะอาดสิ่งที่ต้องมาสัมผัสกับจุดทีเป็นสิวของคุณสามารถป้องกันได้
การเปลี่ยนผ้าปูที่นอนทุกๆสัปดาห์ และเปลี่ยนปลอกหมอน 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์สามารถทำให้เกิดความแตกต่างได้เช่นกัน
- ขอความช่วยเหลือจากแพทย์ผิวหนัง ถ้าคุณยังมีสิวอยู่หลังจากได้ลองวิธีเหล่านี้ทั้งหมดแล้ว คุณควรไปพบแพทย์ผิวหนังเพื่อให้แพทย์ช่วยเหลือ
ด้วยความเชี่ยวชาญของหมอและการรักษาในปัจจุบัน เคสทุกเคสสามารถรักษาให้หายได้ แพทย์ผิวหนังสามารถปรับแผนการรักษาตามความต้องการเฉพาะของคุณได้
คราวนี้คุณก็ได้รู้แล้วว่าวิธีใดที่พอจะช่วยคุณให้จัดการกับปัญหาสิวได้แล้วบ้าง แล้วคุณคิดว่าวิธีไหนที่คุณต้องการจะลองเปลี่ยนดู
อ้างอิง: https://www.aad.org/public/diseases/acne-and-rosacea/10-things-to-try-when-acne-wont-clear